M.Zawpad

กลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ยังสืบทอดตำนานอยู่

ภาพประมาณปี 2527

กลุ่มคนยุคต้นๆ กับการท่องเที่ยวป่าแดง

มิตรภาพ

สิ่งสำคัญและเยียวหาหัวใจได้ดีคือมิตรภาพ

จำกันได้ไหม

ใครเป็นใครจำกันได้ไหมเอ่ย

จากใจผู้เขียน

มนุษย์คือสัตย์สังคม เพื่อน พี่ น้อง คือสังคมหนึ่งของมนุษย์ บล็อกบอกเล่าเรื่องราว ความเป็นอยู่ของสังคมลูกทหารที่เกิดและคลานตามกันมา ภายในรั้วรวดหนามที่ร้อมรอบจนเสมือนอยู่บ้านเดียวกันจินตนาการสร้างสรรค์นี้มีแรงบัลดาลใจมาจากกลุ่มบุคคลยุคต้นๆของกลุ่มซึ่งวันหนึ่ง เขากลับคิดถึงอดีตขึ้นมาจึงเริ่มขับเคลื่อนการรวมตัวและรวมกลุ่มคนในอดีต เพื่อรวบรวมบทความภาพถ่ายมานึกหวนวันวานในนามกลุ่ม"camp boy."กลุ่มoriginal ชื่อเดิม "เด็กร้อย ล.ว.8" แต่30กว่าปีให้หลังมลขลังของ camp boy ก็ไม่ได้ถูกลบเลือนไปจากสังคมยังมีเด็กรุ่นหลังที่สืบทอดต่อกันมาจนถึงปัจจุบันแต่มีการปรับเปลี่ยนไปตามแนวทางของกลุ่มชื่อว่า '' M.Zaw pad 28" ทั้งนี้ผู้เขียนขอยืนยันว่าคนทั้ง2กลุ่มคือบุคคลกลุ่มเดียวกัน แต่ต่างยุคสมัยเท่านั้นเอง
ขอบคุณจากใจ
เตี้ย

วันศุกร์ที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

ใจหมา

camp boy วัยระเริง

อุ้ยแม่เจ้า!  อย่าไปยุ่งกับมัน พวกเนี้ย ....... นี่คือเสียงลือเสียงเล่าอ้าง
โจ๊ก บอล เอ็ดดี้  เบียร์  (มะเดี่ยวไม่เกี่ยวมะเดี่ยวเด็กดี)
เสียงลือเสียงเล่าอ้าง ในความเสเพลของพวกเขา CAMP  BOY  ถึงยุคที่ใช้คำว่าจัดเต็มจริงๆ  เป็นช่วงที่เราย้ายมาจาก ค่ายพ่อขุนกันใหม่ๆ      ความห้าวนี่ต้องยอมรับว่าเกินร้อย  โดยเฉพาะ เอ็ดดี้ (คนที่3จากซ้าย) ด้วยเอกลักษณ์ ทรงผม ไฟโด้ ดีโด้ของแกไม่ต้องพูดถึงสาวๆ ติดกันเกียวกราว   เป็นช่วงที่แกสมหวังในความรักมากที่สุดเท่าที่ผมจำได้    เมื่อก่อนแกไม่ใช่คนใจน้อยเหมือนสมัยนี้ ใจแกใหญ่เท่าภูเขาเหล่ากา   ถ้าเปรียบเทียบนิสัยและความใจใหญ่ของแก ให้เปรียบเทียนที่ เจ้าบีน้องชายของเขา  สมัยนั้นอาจจะเป็น ฤดูหาคู่ของพวกเรา  เรียนไม่ยุ่งมุ่งแต่รัก  ภาหนะที่ อาดดี้ใช้แว้น ปิดแซงชาวบ้าน  จนหางปายาว 12 นิ้ว ขาดไม่เว้นแต่ละวัน คือ เจ้าคริสตันชมพู ลงเสตอ 28 ออกตัวช้ามากๆ ปล่อยให้คู่แข่งนำไปก่อนทุกครั้ง     แต่แล้วเจ้าเสตอ 28 ของเขาก็รอรอบและแซงคู่แข่งในเสาไฟสุดท้ายจนนับครั้งไม่ท้วน   วัยรุ่น เด็กเล็ก  ผู้ใหญ่ ในค่ายต่างร้องยี้  เมื่อเห็นพวกเรา  ด้วยพฤติกรรมที่เสเพล  ลักเล็กขโมยน้อย  ต่อยนายสิบใหม่  ต่อยลูกทหารด้วยกันเอง  ยาเสพติด  หลายครั้งที่ทำให้ชีวิตของพวกเราต้องตกอยู่ในวังวนอบายมุข  วังวนของความสับสนวุ่นวายใจ   กี่ครั้งที่พ่อแม่ต้องเสียน้ำตา  กี่ครั้งที่ พ่อ ต้องถูกผู้บังคับบัญชาเรียกพบ  กี่ครั้งที่กิ่งโป๊ยเซียนบ้านคุณจะต้องหาย
ครั้งหนึ่ง พวกเรามีเรื่องกับเด็กในหมู่บ้าน  พวกเรานี่แหละพร้อมจะต่อสู้ด้วยกันกำปั้นต่อกำปั้น  สุดท้ายความน่าเกรงขามของคนที่เรียกว่าเถื่อนกว่า  โหดกว่า  พร้อมจะฆ่าคุณได้ตลอดเวลา  สั่งสอนเราซะจนบางครั้งเราคิดว่าเราเป็นเสือ  แต่แท้จริงแล้ว เราแค่แมวตัวเล็กๆหัดฝนเล็บ เมื่อต้องเปรียบเทียบกับโลกกว้าง   เรื่องมีอยู่ว่าวันนั้นมีการท้า ต่อยกันระหว่าง เบียร์ กับ เด็กในหมู่บ้าน  6โมงเวลานัดหมาย หน้าน้ำตกธารทิพย์พวกเราไปกันทั้งหมด 4 คน  โจ๊ก  บอล  ดี้  เบียร์  เราไม่รอนานเสียงรถมอร์เตอร์ไซ์ร่วม 20 คัน เสียงดังคำรามมาจากหมู่บ้าน เหมือนเสียงรังผึ้งแตกทำให้เราใจแป๊วเหมือนกัน  แต่เราก็ยังยืนหยัดพร้อมหน้ากัน 4 คน เผชิญน่ากับเด็กหมู่บ้านไม่ต่ำกว่า 50 คน หลายคนพกมีด  หลายคนพกปืน  เรามีเพียงสนับมือ มีดพกเล็กๆ จะไหมหรอว๊ะ    แต่แล้วเรื่องราวจบลงตรงที่เราต้องเข้าไปตามรุ่นใหญ่ของพวกเราออกมาอีกทีถึงเป็นการต่อยตัว/ตัวแต่เราก็ยังไม่ไว้ใจพวกมัน     มันพร้อมจะลุมเราได้เสมอ   ในเมื่อเราขอเข้าไปตามรุ่นใหญ่พวกมันดูท่าทีถอยทัพเหมือนกัน  จนสุดท้ายพวกมันถอยทัพเพราะเกรงกลัวรุ่นใหญ่ของพวกเราพอสมควร   วันนั้นเป็นอันว่าไม่ใครต้องเจ็บตัว หรือถูกลูกปืนยิงตาย นั่นคือความสามัคคีที่เรามีและยืนหยัดเคียงข้างกัน  ถึงแม้จะขาสั่น ปากสั่นจนพูดไม่ออกแต่เรายังยืนอยู่รอจมตืนด้วยกัน.......
ใครหรอรุ่นใหญ่  (จ่าไหน) หรืออาไหน ไม่มีใครไม่รู้จักแก  ขอให้ได้บอก "ใครทำหลานกู ๆๆๆๆๆ"  นี่คือคำพูดเอกลักษณ์ของแกพวกเรายกย่องแกมาก   สมัยนี้แกก็ยังเหมือนเดิม  คอนเฟริม

แต่เรื่องราวทั้งหมดจงเชื่อเถอะว่า  พ่อแม่เราสั่งสอนเรามาดีแล้ว  แต่ด้วยความห้าวหาญของวัยรุ่นทำให้พวกเรา ต้องเผชิญมันเพราะสังคมสมัยก่อนอยู่ด้วย พละกำลังกำปั้น คมมีด  และจิตใจที่หยาบกระด้าง...
สุดท้ายนี้  เมื่อเห็นรูปแล้วมองย้อนอดีตไป ชั่งน่าขอบใจประสบการณ์ ที่ครั้งหนึ่งคุณอาจจะหาไม่ได้อีกแล้ว เพราะวัยรุ่นใจหมาเกิดมาเป็นได้แค่ครั้งเดียว
คิดถึงอดีตเน๊ะ
โจ็ก บอล ดี้  เบียร์....



วันพฤหัสบดีที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

สถานที่ฝึกว่ายน้ำ




มาฝึกว่ายน้ำกัน




ในสมัยก่อน การว่ายน้ำเป็นสิ่งสำคัญ ต่อการดำเนินชีวิตพอสมควรเพราะการทำมาหากินเก็บผักเก็บหญ้าหาปลา ก็ต้องอยู่ใกล้ๆแหล่งน้ำทั้งนั้น อีกอย่างพ่อแม่สมัยก่อนที่อยากให้ลูกว่ายน้ำเป็นเพราะจะได้ช่วยเหลือตัวเองได้ตอนที่ลูกน้อยตกน้ำ   แต่สมัยนี้เด็กในเมือง มักจะว่ายน้ำไม่ค่อยเป็น อย่าว่าแต่เด็กกรุงเทพเลย เด็กต่างจังหวัดก็เถอะ แต่การว่ายน้ำไม่เป็น  แทบไม่มีผลอะไรกับชีวิตซักเท่าไร..........


วันนี้มีน้องๆ นำภาพเก่าสมัยที่พวกเราเล่นน้ำกัน คลองนี้เมื่อก่อนพวกเราเรียกมันว่า คลองหลังทุ่งนา อยู่ในค่ายพล.ม.1 เพชรบูรณ์   ถ้าถัดคลองนี้ไปรู้สึกว่าจะเป็น  หมุ๋บ้านบ้านพลำ  ในภาพนี้ผมเชื่อว่าจะต้องมีผู้ใหญ่ดูแลอยู่แน่ๆ  เพราะพ่อแม่ของพวกเราไม่ค่อยที่จะปล่อยให้มาเล่นกันตามลำพัง  หากใครอยากจะมาเล่นแล้วไม่ได้รับอนุญาติก็จำเป็นต้องหนีมาเล่นทุกครั้งไป    คลองทุ่งนาห่างจากบ้านพวกเราประมาณ 500 เมตร แต่ทางเดินเข้ามาต้องข้ามป่าละเมาะ  ป่าตะโก  เก็บลูกตะโกมาตากแดดกิน  มีเล็บแมว  ขะขบป่า  และพุธทรา ให้เราได้เก็บกินกันตลอดทาง  มีรังนก สัตว์จำพวกนก หนู  งู  ถือว่าเป็นการพจญไพรชั้นยอดของและเสริมสร้างทักษะพวกเราตามภาษาเด็กหลังเขาได้ดีจริงๆ   หากใครได้มาเล่นน้ำที่นี่ 100 คน  99 คนจะต้องว่ายน้ำเป็นในที่สุด  คลองทุ่งนาจึงถือว่าเป็นครูชั้นยอดในการฝึกว่ายน้ำ ลองถูกลองผิด ว่าง่ายๆคือเริ่มจากท่าลูกหมาตกน้ำ(หลายคนคงจำท่านี้ได้)  ถ้าหากใครว่ายน้ำเป็นและชำนาญแล้วท่าต่อไปที่จะต้องฝึกคือท่าพุ่งแหลม  หรือท่าพุ่งหลาว  

สถานที่นี้จึงเป็นสถานที่น่าจดจำและน่ายกย่องสำหรับพวกเรา  CAMP BOY - GIRL  มองแล้วหวนคิดถึงวันเก่าๆ


ขอบคุณภาพจาก สาลิกาดอย ทหารของในหลวง (ฟู)


เขียนโดย
บอล

วันพฤหัสบดีที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

ซี้กันว่ะ


เพื่อนซี้
ซี้กันว่ะ

กล่าวถึงสังคมมนุษย์ทุกวันนี้มีเทคโนโลยี่ออนไลน์  สร้างสังคมเพื่อนฝูงอย่างไม่จำกัด เพศ วัย และชาติ มีระบบแชตสามารถพูดคุยกับบุคคลอื่นๆที่ชื่นชอบในเรื่องที่ชอบเหมือนกัน การคบหาสมาคมทำง่ายแค่ปลายนิ้ว เคยได้ยินคำถามนี้ไหมครับ
''ไปโรงเรียนมีเพื่อนกี่คนแล้ว ทำงานที่ใหม่มีเพื่อนหรือยัง''  ถ้าคนอยู่ในยุคก่อนๆจคุณต้องเคยได้ยินคำถามคำนี้อย่างแน่นอน แล้วมันบ่งบอกถึงอะไร ความหมายของมันก็คือ หากมีเพื่อนความมั่นคงในการใช้ชีวิตทางสังคม ก็จะดูดีมีพลัง มีคนช่วยคิด ช่วยตอบ ช่วยปลอบ เช็ดน้ำตาใก้คุณ แต่สมัยนี้คำพูดดังกล่าวแทบจะไม่เคยได้ยิน หรือมีใครงัดมันออกมาพูดแล้ว  เพราะมีสื่อต่างๆให้คุณค้นหาและเลือกคบเพื่อนได้ตามใจชอบ  แต่!ในความสะดวกหรือการเลือกที่จะคบกับใครในโลกออนไลน์ จะมีมลขลังหรือมีพลังคำว่าเพื่อนได้ดีไปกว่าการที่เรามีเพื่อนและใช้ชีวิติด้วยกัน เข้าอกเข้าใจกัน ใครชอบอะไร ใครไม่ชอบอะไร นิสัยที่แท้จริงอยู่ตรงไหน 
 หากใครคิดภาพของคำว่าเพื่อนแท้ไม่ออกโปรดพิจารณาภาพที่แสดงโชว์อยู่นี้ และซึมซับอารมณ์เสพอารมของภาพซะให้คลายเหงาคลายเศร้าถึงแม้ชีวิตของทุกคนในรูปไม่ได้พบปะกันมากเหมือนเมื่อก่อน แต่ผมเชื่อว่าถ้าพวกเขาเห็นรูปของตัวเองเขาจะต้องคิดถึง คำว่าเพื่อนแน่นอน

ปล.ไอ้เจ้าพวกเนี้ยมันสลับหมุนเวียนท้าชกท้าตีต่อยกัน วนจนครบทุกคู่แล้วเพราะชะนั้นความซี้ไม่ต้องพูดถึง







วันอังคารที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

ผู้ใหญ่ใจดี


แนะนำผู้ใหญ่ใจดี

หากย้อนหลังไปเมื่อ 20 กว่าปีก่อนยังไม่มีการจัดตั้งกลุ่ม camp boy เพราะกำลังคนของกลุ่มยังเด็กมากเกินกว่าที่จะจัดตั้งกลุ่ม ตอนนั้นความต้องการของเด็กน้อยยังมีแค่ เล่น กิน นอน ยังไม่มีการรวมตัวอย่างชัดเจน ยังใช้คำว่าเด็กแถวหน้า เด็กแถวหลัง เด็กหลังค่าย กันอยู่ เรื่องราวที่กำลังเขียนจำความได้ไม่มากนัก แต่ที่ยังจดจำได้ดีจะมีผู้ใหญ่ใจดีอยู่คนหนึ่ง ที่พาเด็กหลังค่ายอย่างพวกเราไปเก็บปูนา ที่อยู่ตามท้องร่องท่อระบายน้ำ มานึ่งใส่ซึ่งใหญ่ๆให้พวกเรากิน เกือบทุกอาทิตย์ เมื่อก่อน ปู ปลา หากินกันง่ายมากเมื่อเทียบกับสมัยนี้ ด้วยความใจดีของผู้ใหญ่คนนี้บ้านของเขา จะเป็นแหล่งซ่องสุมกำลังของพวกเราในสมัยนั้น บรรดาเด็กผู้ชายก็จะพากันไปเพาะกล้าม เพาะมีอุปกรณ์และลูกเหล็กอยู่ 2-3 ชิ้นให้เราได้ออกกำลังกายกัน หลังจากเล่นไปเล่นมาได้ไม่นานหลายๆคนเรื่มมีกล้ามปีกโผล่ขึ้นมา เป็นที่ถูกใจของเด็กผู้ชายสมันนั้น แต่สมัยนี้จะเน้นไปที่กล้ามข้อมือ เพราะต้องใช้งานหนักในกิจกรรมการล่ำสุรา หากไม่มีกล้ามข้อมือโปรดระวังตื่นเช้ามาอาจจะล้าข้อมือก็เป็นได้ ความใจดีของเขายังมีอีกมากแต่ไม่อาจถ่ายทอดออกมาได้หมด เพราะมันฝังลึกแบบเลือนลางอยู่ในใจ 
ครั้งหนึ่งหมาของแกชื่อไอ้กระทิเป็นหมากึ่งๆจะขี้เลื้อนหลายคนคงจำมันได้ดี มันโดนยาเบื่อจากคนใจหมาที่ไหนก็ไม่ทราบ อาการของมันปางตาย ผู้ใหญ่ใจดีคนนี้ไม่รอช้าคว้ามอร์เตอร์ไซด์คันเก่งของแก แหล่งข่าวเปิดเผยว่าแกปิดคันเร่งไม่ยั้ง แต่ไม่มีการเปิดเผยถึงความเร็วว่ากี่กิโลเมตรต่อชั่วโมง  จุดประสงค์และจุดหมายของแกเพื่อที่จะไปตลาดในเมืองเพชรบูรณ์ หาซื้อเม็ดแมงลัก เอามาผสมน้ำกรอกปากไอ้กระทิ ตำนานนี้เป็นที่กล่าวขานและยังหาข้อสรุปชัดเจนไม่ได้ว่า เวลาในการขับรถออกไปซื้อเม็ดแมงลักเขาใช้เวลากี่นาทีกันแน่ บ้างก็ว่า 5 นาที บางคนว่า7 นาที จนโตขนาดนี้ผมก็ยังหาความจริงไม่ได้สมัยนั้นแกจึงเป็นฮีโร่ในใจใครหลายๆคน  เดี๋ยวว่างๆไปเพชรบูรณ์จะลองไปถามแกดู เพราะเรื่องนี้มันค้างคาใจมานานมากแล้ว 555 จะกี่นาทีก็ชั่งแต่ไอ้กระทิมันรอดตายมาได้ แต่ความใจหมาของคนก็ยังไม่จบ หรือว่าเราต้องโทษความตะกระของไอ้กระทิดี เพราะมันถูกอย่าเบื่อแบบเดิมอาการเดิมอีกหลายๆครั้ง แต่เรื่องเม็ดแมงลักถอนพิษไม่ต้องห่วงเขาซื้อยกกระสอบไว้ถินพิษให้มันแล้ว.....  จากเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นเครื่องยืนยันความถึงความโอบอ้อมอารีและเผื่อแผ่มีเมตตาเพื่อนร่วมโลกของแก


นี่คือเรื่องราวเรื่องแรกของเว็บบล้อกของพวกเรา วันนี้พอเท่านี้ก่อน วันหน้าจะมีเรื่องอะไรมาเล่าอีกโปรดติดตาม สำหรับบุคคลในตำนานของกลุ่มที่มีอายุพอที่จะเรียกว่าตำนานทั้งหลายได้อ่านบล็อกนี้แล้วรู้ตัวโปรดนำภาพถ่ายหายากมาแสดงพร้อมคำอธิบายนิดหน่อยเพราะผู้เขียนจะบันทึกตำนานไว้ในบล็อกแห่งนี้สำหรับ ยุคของZawPad โปรดอัพเดทวัฒนธรรมใหม่ๆ เรื่องราวชีวิตความเป็นอยู่รูปภาพที่มีสีสันทันยุคสมัยอย่างสม่ำเสมอด้วยจ๊ะนี่คือคำสั่ง!

ปล.เราจะไม่เปิดเผยชื่อของผู้ใหญ่ใจดีท่านนี้ออกสื่อเพราะกลัวเรื่องลิขสิทธิ์พ้องร้องเหมือนดารา
ซึ่งผู้เขียนยังไม่ได้รับลิขสิทธิ์ดังกล่าวครับ โปรดเข้าใจมา ณ ที่นี้



บทความโดย
นามคีร์บอร์ด
เตี้ย...




 

ด่วน ลงประวัติหางานฟรี

ประกันภัยรถยนต์