จากใจผู้เขียน

มนุษย์คือสัตย์สังคม เพื่อน พี่ น้อง คือสังคมหนึ่งของมนุษย์ บล็อกบอกเล่าเรื่องราว ความเป็นอยู่ของสังคมลูกทหารที่เกิดและคลานตามกันมา ภายในรั้วรวดหนามที่ร้อมรอบจนเสมือนอยู่บ้านเดียวกันจินตนาการสร้างสรรค์นี้มีแรงบัลดาลใจมาจากกลุ่มบุคคลยุคต้นๆของกลุ่มซึ่งวันหนึ่ง เขากลับคิดถึงอดีตขึ้นมาจึงเริ่มขับเคลื่อนการรวมตัวและรวมกลุ่มคนในอดีต เพื่อรวบรวมบทความภาพถ่ายมานึกหวนวันวานในนามกลุ่ม"camp boy."กลุ่มoriginal ชื่อเดิม "เด็กร้อย ล.ว.8" แต่30กว่าปีให้หลังมลขลังของ camp boy ก็ไม่ได้ถูกลบเลือนไปจากสังคมยังมีเด็กรุ่นหลังที่สืบทอดต่อกันมาจนถึงปัจจุบันแต่มีการปรับเปลี่ยนไปตามแนวทางของกลุ่มชื่อว่า '' M.Zaw pad 28" ทั้งนี้ผู้เขียนขอยืนยันว่าคนทั้ง2กลุ่มคือบุคคลกลุ่มเดียวกัน แต่ต่างยุคสมัยเท่านั้นเอง
ขอบคุณจากใจ
เตี้ย

วันเสาร์ที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2556

สุนทรี (ทางอารมณ์)


                                                       



"กิ่งไม่1กิ่งสามารถหักคนเดียวได้ แต่ถ้ากิ่งไม้หลายๆกิ่งมารวมกัน ไม่สามารถหักคนเดียวได้ ต้องช่วยกัน''

นั่นคือคำพูดของ ดญ.สุนทรี ไชยวงศ์(แวว)  ตอนอายุ10 กว่าขวบ  ปัจุบันอายุของเธอน่าจะ 34 ปีเข้าให้แล้ว  สาวเหนือ  ผิวขาว  น่าตาจิ้มลิ้ม บุคคลิกนิสัยออกไปทางเรียบร้อยคนนี้แหละ  ที่เป็นคนใช้ประโยคดังกล่าวมาสอนความสามัคคีให้พวกเรา  ก่อนจะเขียนเรื่องนี้พยายามมองรูป พี่สาว คนนี้อยู่นานว่าจะเขียนเรื่องอะไรดีแต่ดันนึกคำพูดคำนี้ขึ้นมาได้ รู้สึกว่าจะเป็นการซ้อมวิ่ง พลัด หรือวิ่งเปรี้ยว เพื่อเตรียมตัวแข่ง งานวันเด็กที่กำลังจะมาถึง พี่น้องเราหลายคนคงเคยเข้าร่วมการแข่งขันมาบ้างลองนึกดูดีๆ 

 พี่สาวถือเป็นลูกทหารรุ่นแรกๆของกลุ่ม camp boy-girl  เรื่องอายุอานามและประสบการณ์การใช้ชีวิตไม่ต้องพูดถึง  ที่ว่าไม่ต้องพูดถึงก็คือว่า  ผมไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเขาเลย  ถึงแม้สมัยก่อนจะทำงานทำการอยู่ในกรุงเทพด้วยกันแต่ก็ไม่เคยมีการติดต่อพบเจอกันซักครั้ง  

แต่สิ่งหนึ่งที่เป็นตัวตนของเขาคือการบริหารและการเอาใจใส่ในการดูแลโลกส่วนตัวที่เขามีอยู่  เพราะฉนั้นหากพวกเรามีกิจกรรม หรืองานสังสรรค์ร่วมกัน  จงเตรียมพบกับปัญหาหรือหงุดหงิดเสียอารมณ์กับการเชื้อเชิญผู้หญิงคนนี้ออกมาร่วมกิจกรรม เพราะหากเขายังมีโลกส่วนตัวที่เขายังจัดการกับมันไม่สำเร็จเขาจะไม่มีวันออกจากโลกส่วนตัวตรงนั้นเด็ดขาด  อีกทั้งสไตร์ชีวิตที่ค่อนข้างปรับเปลี่ยนรูปแบบเป็นว่าเล่น  หลายปีก่อนที่เธอกลับมาเยี่ยมบ้านที่เพชรบูรณ์  ซึ่งเป็นวันที่ผมกับมาเยี่ยมบ้านเหมือนกัน ผมพบเห็นเธอในชุดนุ่งขาวห่มขาว  ดูเคร่งขลึมกับชีวิตอย่างบอกไม่ถูก  แต่ไม่ให้เป็นการละลาบละล้วงชีวิตส่วนตัวเขามากเกินไปผมจึงไม่ได้ถามอะไรมาก

มาถึงเรื่องราวในสมัยวัยรุ่นกันบ้างดีกว่า  ก่อนอื่นขอออกตัวก่อนน๊ะครับ ว่าไม่รู้ตอนนี้พี่แววพี่สาวของผมเขาทำอะไรอยู่ที่ไหน  ที่ต้องออกตัวไม่ได้กลัวเรื่องอะไรหรอกครับ  แต่ที่กลัวอย่างเดียวคือถ้าพี่เขาบวชชีอยู่แล้วผมจะไปเขียนเรื่องราวเผาแกก็คงไม่ได้เพราะถือว่าเขาละทางโลกไปแล้ว  เพราะฉนั้นหวังเป็นอย่างยิ่งว่าเธอคงไม่ได้เป็น แม่ชี อยู่ในตอนนี้ ไม่งั้นผมอาจจะปาบเพียงเพราะเขียนบล็อก เล่าเรื่องให้ทุกๆคนอ่าน
ตามภาษาวัยรุ่น    วัยรุ่นมุ่งเลือกคู่   เป็นธรรมดาที่ในกลุ่มของพวกเราจะมีการ ปิ๊งปั็งกันเองภายในกลุ่มบ้าง  ถึงจะเกิดและคลานตามกันมาก็ตาม  แต่ส่วนมากมักจะเป็นรักกันข้างเดียวซะมากกว่า  เช่นเดียวกับท่านผู้นำของกลุ่มที่ต้องการให้จัดทำบล็อกนี้ขึ้น   พี่โจ๊ก  แววตาเป็นประกายของหนุ่มร่างอ้วน ชอบมองพี่สาวแววซะเหลือเกิน  พี่โจ๊กแกก็ดีน๊ะ  แกเป็นคนพูดตรงๆ  แกบอกพี่ แวว ไปหลายครั้งแล้วว่าชอบแต่คำตอบที่ได้รับมักตรงข้ามกับคำตอบที่แกอยากได้ยินเสมอ  ''บ้าไอ้โจ๊ก เราเพื่อนกัน''
นั่นคือการปฎิเศษความรักกับ  ท่านผู้นำของเรา   มองถึงความเป็นไปได้ในสังคมลูกทหาร   ที่โตด้วยกันมาโอกาสน้อยมากที่จะลงเลยใช้ชีวิตคู่ด้วยกัน ผู้ใหญ่หลายท่านมักบอกไว้อย่างนั้น   ไม่เพราะไร  จีบกันไม่ติดก็ไม่เป็นไร  ถือเอาว่าเป็นการฝึกฝนวิชาก็แล้วกัน แต่วิวัฒนาการมันเปลี่ยนไป รู้สึกว่ากลุ่มที่สืบทอด CAMP BOYต่อจากพวกเรา คือกลุ่ม ม้าซาวแปด ได้ข่าวมาว่ามีกิ๊ก กั๊กกันอยู่ 2 คู่น๊ะ รู้สึกฉายามันจะใช้คำว่าดำ เอสโซ่หรืออะไรนี่แหละ  ถ้ามีโอกาสไปเพชรบูรณ์จะไปสอบถามความจริงด้วยตัวเองเลย   ต่อเรื่องพี่โจ๊กในปัจจุบันพี่โจ๊กของพวกเราก็มีครอบครัวและมีลูกสาวที่น่ารักไปแล้ว

น่ารัก ตาหวานเอาการเลยทีเดียว  แต่ตอนนี้เขียนไปเขียนมาพึ่งนึกได้ว่า กูจะทำให้พี่โจ๊กโดนภรรนาที่บ้านสวดยับหรือเปล่าว๊ะเนี่ย   เกิดแฟนเขาอ่านเรื่องราวในบล็อกนี้แล้วหึงขึ้นมาจะทำอย่างไร   ผมจะบอกว่าพี่ก็ช่วยตัวเองไปล๊ะกันผมมีน่าที่เขียนบล็อกผมก็เขียน  และผมต้องถ่ายทอดเรื่องจริงไม่ใช่นั่งเทียนเขียนน๊ะพี่  ผมไปล๊ะ!


นี่แหละครับมิตรภาพตอนเด็ก  ของพวกเราพอจะถ่ายทอดเรื่องราวของลูกทหารไว้ได้บ้างว่าเขาอยู่กันอย่างไร หรือเปล่าครับ

สุดท้ายไปสืบให้ที ว่า สุนทรี ไชยวงษ์  (พี่แวว) เขาบวชชีอยู่ที่ไหนหรือเปล่า คริๆ





ใครอยากมีเสื้อคู่ ครอบครัว เข้าไปดู



เรื่องโดย
สิทธิชัย..






0 ความคิดเห็น :

แสดงความคิดเห็น

ด่วน ลงประวัติหางานฟรี

ประกันภัยรถยนต์